หนอนตายหยาก
พจนานุกรม
ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ให้ความหมายของคำว่า “สมุนไพร” ว่า ผลผลิตธรรมชาติที่ได้จากพืช สัตว์ และแร่ธาตุ ที่ใช้เป็นยา
หรือผสมกับสารอื่นตามตำรับยา เพื่อบำบัดโรค บำรุงร่างกาย หรือใช้เป็นยาพิษ
พระราชบัญญัติยา
พุทธศักราช ๒๕๑๐ ให้ความหมายของ “ยาสมุนไพร” ว่า
ยาที่ได้จากพืช สัตว์ หรือแร่ ซึ่งมิได้ผสม ปรุง หรือแปรสภาพ หากยาสมุนไพรถูกผสม
ปรุง หรือแปรสภาพ ก็จะกลายเป็น “ยาแผนโบราณ” ซึ่งในพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐ ให้นิยามว่า ยาแผนโบราณ หมายถึง
ยาที่มุ่งหมายสำหรับใช้ในการประกอบโรคศิลปะแผนโบราณ หรือการบำบัดโรคสัตว์
ซึ่งอยู่ในตำราแผนโบราณที่รัฐมนตรีประกาศ
หรือยาที่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นทะเบียนตำรับยาเป็นยาแผนโบราณ
ดังนั้น
สมุนไพรจึงอาจได้ทั้งจากพืช สัตว์ และ แร่ธาตุ สมุนไพรที่ได้จากพืช
เรียกว่าพืชสมุนไพร หรือเครื่องยาพฤกษวัตถุ พืชสมุนไพรที่ใช้มากในการแพทย์ แผนไทย
ส่วนใหญ่ได้จากธรรมชาติ บางส่วนมีการปลูก
เพื่อเป็นวัตถุดิบทางยาและการใช้ประโยชน์อื่นๆ อย่าง กว้างขวาง
ประเทศไทยอยู่ในเขตร้อนชื้นที่มีความหลากหลาย ของพันธุ์พืชแห่งหนึ่งของโลก คนไทยใช้ประโยชน์จาก
พืชสมุนไพรเป็นทั้งยารักษาโรค และเป็นอาหาร ปัจจุบัน
พืชสมุนไพรพัฒนาไปสู่ธุรกิจสุขภาพที่ทันสมัยมากมาย
พืชสมุนไพรมีประโยชน์ต่อชุมชนในการดูแลสุขภาพในครัวเรือน
อาหาร
ลดค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพเพิ่มมูลค่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้แก่ท้องถิ่น
การปลูก การใช้สมุนไพรก่อให้เกิดการพึ่งตนเอง
และการพัฒนาความสามารถในการผลิตพืชที่มีคุณภาพ
การปลูกพืชสมุนไพรมีข้อควรคำนึงดังนี้
๑. พืชสมุนไพรมีความต้องการใช้หลากหลายนับพันชนิด
แต่มีความต้องการในปริมาณไม่มากเหมือนพืชเศรษฐกิจ การปลูกพืชสมุนไพรส่วนใหญ่
จึงควรปลูกแบบผสมผสานและมีการวางแผนการปลูกที่ดี เพื่อให้มีรายได้หมุนเวียน
๒. การปลูกพืชสมุนไพรที่ดีนั้น
ผลผลิตที่ได้ต้องคำนึงถึงคุณภาพภายในของผลผลิตด้วย กล่าวคือ สมุนไพรที่มีคุณภาพดี
จะต้องมีสาระสำคัญ หรือตัวยาออกฤทธิ์สูงหรือได้มาตรฐานด้วย
เพื่อให้เกิดประสิทธิผลในการใช้หรือรักษา นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัย คือ
ไม่มีสารเคมีตกค้าง ไม่มีเชื้อรา จุลินทรีย์ หรือโลหะหนักปนเปื้อน
๓. การปลูกพืชสมุนไพรแบบอินทรีย์ในชุมชน เป็นแนวทางการผลิตพืชสมุนไพรที่จะสามารถสร้างคุณภาพผลผลิตสมุนไพร
และสร้างความเชื่อถือแก่ผู้บริโภค เนื่องจากพืชสมุนไพรใช้ประโยชน์เป็นยา
และประโยชน์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ การบริหารจัดการการผลิต สมุนไพรควรรวมกลุ่มและเครือข่ายที่เข้มแข็ง
กลุ่มสมุนไพรที่เข้มแข็ง มีความมุ่งมั่น มีความร่วมมือร่วมใจของชุมชน มีผู้รู้
มีองค์ความรู้ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น และยึดมั่นในหลักการเศรษฐกิจพอเพียง
๔.
มีเหตุผล ผลิตตามสภาพพื้นที่ ตามความต้องการบริโภค ใช้ภูมิปัญญาผสมผสานเทคโนโลยี
๕.
มีความพอดีพอประมาณ รวมกลุ่มกันไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป เติบโตเป็นขั้นตอน
มีการจัดสรรทรัพยากร การลงทุน และการออมที่ลงตัว
๖. มีการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี
คือ ผลิตอย่างหลากหลาย ลดความเสี่ยงภัยธรรมชาติและเศรษฐกิจ โดยมีกลุ่มคอยช่วยเหลือกันและกัน
การปลูกพืชสมุนไพรนับเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเกษตรกรที่จะได้ปรับเปลี่ยนไปสู่การผลิตที่ยั่งยืน
ชุมชนมีสุขภาพดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ที่มา:กลุ่มส่งเสริมพืชสมุนไพรและเครื่องเทศ
สำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร
กรมส่งเสริมการเกษตร
๒๕๕๗
ข้อมูล : ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น